- 1. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทคโนโลยีในการนาเสนอผลงานวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนพัฒนาอิสลาม
- 2. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทคโนโลยีในการนาเสนอผลงาน•
หลักการนาเสนอข้อมูลและสร้างสื่อนาเสนอ
การนาเสนองานหรือผลงานนั้นสื่อนาเสนอเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมเนื้อหา
ของผู้บรรยายไปยังผู้ฟังและผู้ชมดังนั้นสื่อจึงมีบทบาทสาคัญอย่างมาก
สื่อที่ดี จะช่วยให้การถ่ายทอดเนื้อหาสาระทาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ผู้ฟังและผู้ชมจะสามารถ จดจาเนื้อหาสาระได้นานและเข้าใจในเนื้อหาได้ดีมากขึ้น
ความหมายการนาเสนอ การนาเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้
ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้ชม ผู้ฟังโดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ
อันจะทาให้บรรลุ ผลสาเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนาเสนอ
- 3. จุดมุ่งหมายในการนาเสนอ•
1. เพื่อให้ผู้ชม ผู้ฟังรับเข้าใจสาระสาคัญของการนาเสนอข้อมูล•
2. ให้ผู้ชม
ผู้ฟังเกิดความประทับใจและนาไปสู่ความเชื่อถือในข้อมูลที่นาเสนอการนาเสนอผลงานโดยใช้สื่อโสตทัศนูปกรณ์
มีผลในทางจิตวิทยาการเรียนรู้ซึ่งได้มีการ ค้นพบจากการวิจัยว่าการรับรู้ข้อมูลโดยผ่านทางประสาทสัมผัสสองอย่างคือ
ตา และหูพร้อมกันนั้น
ทาให้เกิดการรับรู้ที่ดีกว่าส่งผลในด้านความสามารถในการจดจาได้มากกว่าการรับรู้โดยผ่านตา
หรือ หูอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว
จึงได้มีการพัฒนาสื่อโสตทัศนูปกรณ์รูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาใช้งาน
โดยเฉพาะสื่อประสม
- 4. หลักการพื้นฐานของการนาเสนอผลงาน
มีจุดเน้นสาคัญดังนี้• 1) การดึงดูดความสนใจโดยการออกแบบให้สิ่งที่ปรากฏต่อสายตานั้นชวนมอง
และมีความสบายตาสบายใจขึ้นเมื่อชมการนาเสนอ ดังนั้นการเลือกองค์ประกอบต่าง ๆ
เช่น สีพื้น แบบ สี และขนาดของตัวอักษร รูปประกอบ ต้องเหมาะสม สวยงาม•
2) ความชัดเจนและความกระชับของเนื้อหาส่วนที่เป็นข้อความต้องสั้นแต่ได้ใจความชัดเจน
ส่วนที่เป็นภาพประกอบต้องมีส่วนสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับข้อความที่ต้องการสื่อความหมาย
การใช้ภาพประกอบมีประโยชน์มากดังคาพังเพยภาษาอังกฤษที่ว่า "A
picture is worth a thousandwords" หรือ
"ภาพภาพหนึ่งนั้นมีค่าเทียบเท่ากับคาพูดหนึ่งพันคา" แต่ประโยคนี้คงไม่เป็นจริงหากภาพนั้นไม่มีความสัมพันธ์
อย่างสร้างสรรค์กับความหมายที่ต้องการสื่อ
ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจใช้ภาพใดประกอบจึงควรตอบคาถาม
ให้ได้เสียก่อนว่าต้องการใช้ภาพเพื่อสื่อความหมายอะไรและภาพที่เลือกมานั้นสามารถทาหน้าที่สื่อความหมายเช่นนั้นจริงหรือไม่
- 5. หลักการพื้นฐานของการนาเสนอผลงาน
มีจุดเน้นสาคัญดังนี้(ต่อ)• 3) ความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายการสร้างจุดเน้นตามข้อ
1 และ 2 ข้างต้นต้องคานึงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย
เช่นกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก การใช้สีสด ๆ และภาพการ์ตูนมีความเหมาะสม
แต่ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่และเนื้อหาที่นาเสนอเป็นเรื่องวิชาการหรือธุรกิจ
การใช้สีสันมากเกินไปและการใช้รูปการ์ตูนอาจทาให้ดูไม่น่าเชื่อถือเพราะขาดภาพลักษณ์ของการเอาจริงเอาจังไป
- 6. หลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์สาเร็จรูปเพื่อการนาเสนองาน•
1) ทาความเข้าใจกับงานที่เราต้องการนาเสนอก่อนการเลือกระบบสารสนเทศมาใช้ในการนาเสนองานนั้น
เราต้องเข้าใจถึงลักษณะงานที่เราต้องการนาเสนอก่อนว่าเป็นงานในลักษณะใด เช่น
เป็นข้อความ หรือมีการคานวณหรือเป็นงานที่เกี่ยวกับการค้น
การเก็บรักษาข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกระบบสารสนเทศที่เหมาะสมกับงานนั้น
ๆ• 2) เลือกโปรแกรมสาเร็จรูปมาใช้เมื่อทราบลักษณะของงานที่ต้องการนาเสนอแล้วเราจะเลือกระบบสารสนเทศที่เหมาะสมกับการนาเสนองานนั้น
งานบางอย่างเราอาจใช้ระบบสารสนเทศในการนาเสนอได้หลายอย่าง
เราอาจต้องเลือกว่าจะใช้ระบบใด ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจในความสามารถของระบบนั้น
โดยเฉพาะในส่วนของซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมว่าแต่ละโปรแกรมมีความสามารถใดบ้าง
เราอาจจะต้องทาการประเมินว่าโปรแกรมใดมีความเหมาะสมเพียงใด
แล้วจึงเลือกโปรแกรมที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด
- 7. หลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์สาเร็จรูปเพื่อการนาเสนองาน
(ต่อ)• 3) จัดหาเครื่องมือตามความต้องการของซอฟต์แวร์ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมแต่ละโปรแกรมมีความสามารถไม่เหมือนกัน
ขนาดของโปรแกรมก็ไม่เท่ากัน
ทาให้ความต้องการของฮาร์ดแวร์ในการทางานตามโปรแกรมนั้นแตกต่างกัน
ในคู่มือการใช้งานโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์นั้นจะบอกข้อกาหนดของฮาร์ดแวร์ที่ต้องการสาหรับการใช้งานไว้ว่าจะต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
เราจะต้องจัดหาฮาร์ดแวร์ให้ได้ตามข้อกาหนดนั้นเพื่อให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสาหรับระบบโปรแกรมสาเร็จรูปที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์นั้น
ส่วนใหญ่สามารถนามาใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์มาตรฐานที่มีขายทั่วไปได้เลยยกเว้นอุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์ที่อาจเลือกได้ตามความต้องการว่าเป็นเครื่องพิมพ์สีขาว/ดา
หรือหลายสี จอภาพจะใช้ขนาดใหญ่กี่นิ้ว
หรือฮาร์ดดิสก์ที่อาจต้องดูขนาดความต้องการว่าซอฟต์แวร์มีขนาดเท่าใดและฮาร์ดดิสก์จะพอใช้หรือไม่
เพราะในไมโครคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องนั้นเรามักจะบรรจุโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ไว้หลายชนิดและปริมาณแฟ้มข้อมูลที่มีอยู่เดิมอาจมากจนกระทั่งพื้นที่ที่เหลือไม่เพียงพอต่อการใช้งานโปรแกรมสาเร็จรูปใหม่นั้น
- 8. หลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์สาเร็จรูปเพื่อการนาเสนองาน
(ต่อ)• 4 ) การใช้งานโปรแกรมในการใช้งานนั้น
นอกาจากผู้ใช้จะต้องทาความเข้าใจการทางานของฮาร์ดแวร์ว่าใช้งานอย่างไรแล้ว
รายละเอียดการใช้งานซอฟต์แวร์
ก็เป็นสิ่งสาคัญที่ผู้ใช้จะต้องทาความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนการใช้งาน
ส่วนใหญ่จะศึกษาจากคู่มือของโปรแกรมสาเร็จรูปนั้นเพื่อความเข้าใจในความสามารถก่อน
ปกติแล้วคู่มือการใช้งานมาจากเจ้าของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ซึ่งมักจะอธิบายถึงความสามารถตามฟังก์ชั่นที่มีอยู่
แต่มักจะไม่ค่อยมีตัวอย่างการประยุกต์ใช้ผู้ใช้ต้องทดลองเอง
จึงได้มีผู้ที่มีความรู้ความสามารถในโปรแกรมนั้น ๆ ทาคู่มือการใช้งานในลักษณะการประยุกต์
มีตัวอย่างของงานแสดงให้เห็น
ทาให้สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วขึ้นและในปัจจุบันนี้มีการทาคู่มือการใช้งานในรูปของสื่อคอมพิวเตอร์ที่เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
เช่น ทาเป็นซีดีการใช้งาน เป็นต้น
ฉะนั้นผู้ใช้งานที่ยังไม่มีประสบการณ์จึงควรเรียนรู้จากคู่มือการใช้งาน
ทาความเข้าใจให้ชัดเจนก่อน แล้วจึงลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
- 9. รูปแบบการนาเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันที่นิยมใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ• 1. การนาเสนอแบบ Web pageเป็นรูปแบบการนาเสนอที่ใช้บนอินเทอร์เน็ต
การนาเสนอแบบนี้สามารถสร้างการเชื่อมโยงที่สลับซับซ้อนระหว่างส่วนต่าง ๆ
ตลอดจน
สามารถสร้างการเชื่อมโยงเอกสารที่ต่างรูปแบบกันได้แต่ต้องใช้เวลาในการจัดทามากกว่า
รูปแบบอื่นและผู้จัดทาต้องมีความรู้ความชานาญในโปรแกรมที่ใช้สร้างเว็บเพจ•
2. การนาเสนอแบบ Slide Presentationเป็นการนาเสนอโดยใช้โปรแกรมนาเสนอ
ซึ่งเป็นโปรแกรม ที่ใช้ง่ายมากมีรูปแบบการนาเสนอให้เลือกใช้หลายแบบ
สามารถเรียกใช้ตาราง แผนภูมิ หรือรูปภาพประกอบ และตกแต่งด้วยสีสัน ทั้งสีพื้น
สีของตัวอักษร รูปแบบฟอนต์ของตัวอักษรได้ง่ายและสะดวก
ในปัจจุบันสื่อนาเสนอรูปแบบ Slide Presentationหรือ
สไลด์ดิจิทัล มักจะสร้างด้วยโปรแกรมในกลุ่ม Presentation เช่น Microsoft PowerPoint, OfficeTLEImpress เทคนิคการออกแบบสื่อนาเสนอ
สื่อนาเสนอที่ดี ความมีความโดดเด่น น่าสนใจ จะเน้นความคิด “ หนึ่งสไลด์ต่อ หนึ่งความคิด ” มีการสรุปประเด็น
หรือสาระสาคัญโดยมีแนวทาง 3 ประการในการออกแบบ ได้แก่
- 10. รูปแบบการนาเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันที่นิยมใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ (ต่อ)• 1)
สื่อความหมายได้รวดเร็ว
สื่อนาเสนอที่ดีต้องสามารถสื่อความหมายให้ผู้ฟัง ผู้ชมได้อย่างรวดเร็ว
การออกแบบ สื่อนาเสนอในประเด็นนี้ผู้ออกแบบจะต้องทราบกลุ่มเป้าหมาย
เนื้อหาสาระที่ต้องการนาเสนอ สถานที่
และเวลาที่ต้องการนาเสนอเพื่อประกอบการออกแบบสื่อ เช่น กลุ่มเป้าหมายขนาดเล็ก
สื่อควรมีให้ความสาคัญกับผู้ฟังมากกว่าเนื้อหา สามารถนาเทคนิค หรือ Effect
ต่าง ๆ ของโปรแกรมสร้างสื่อมาใช้ได้อย่างเต็มที่ กลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะโต้ตอบ
เช่นการนาเสนอทางวิชาการ การบรรยาย หรือฝึกอบรม สื่อนาเสนอควรให้
ความสาคัญกับเนื้อหารวมทั้งยังสามารถนาเทคนิค หรือ Effect ต่าง ๆ ของโปรแกรมสร้างสื่อ
มาใช้ได้อย่างเต็มที่เช่นกันกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกิจ เช่นผู้บริหาร นักวิชาการ
สื่อนาเสนอจะต้องให้ความสาคัญกับเนื้อหาและตัว
ผู้นาเสนอเป็นสาคัญเนื้อหาควรมุ่งเฉพาะเป้าหมายของการนาเสนอ ไม่เน้น Effect
มากนัก กลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่
การนาเสนอมักใช้ความสาคัญกับผู้บรรยายมากกว่าเนื้อหาที่นาเสนอ ดังนั้น
สื่อนาเสนอไม่ควรเน้นที่ Effect แต่ควรให้ความสาคัญกับขนาดตัวอักษร
สีตัวอักษร และลักษณะของสีพื้นสไลด์
- 11. รูปแบบการนาเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันที่นิยมใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ (ต่อ)• 2)
เนื้อหาเป็นลาดับ
สื่อนาเสนอที่ดีควรมีการจัดลาดับเนื้อหาเป็นลาดับมีระเบียบ
ดูง่ายไม่สับสนสิ่งที่
จะช่วยให้การออกแบบสื่อนาเสนอที่ต้องการจัดลาดับเนื้อหาให้เป็นระเบียบ และดูง่าย
คือ• 2.1) รูปแบบเนื้อหา
สื่อนาเสนอแต่ละสไลด์ควรหลีกเลี่ยงการนาเสนอแบบย่อหน้า
หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรใช้เทคนิคการเน้นแนวคิดหลัก( MainIdea) ในแต่ละย่อหน้าด้วยสีที่โดดเด่นเช่น พื้นหลังสีขาว ตัวอักษรสีดา
ควรเน้นแนวคิดหลัก ( Main Idea)ด้วยสีแดงเป็นต้น แต่ละสไลด์เนื้อหาไม่ควรเกิน
6 –8 บรรทัด ควรสรุปเนื้อหาให้เป็นหัวเรื่อง (Title)
และหัวข้อ(Topic) หรือแนวคิดหลัก (Main
Idea)
- 12. รูปแบบการนาเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันที่นิยมใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ (ต่อ)•
2.2) แบบอักษร
การควบคุมการแสดงข้อความในแต่ละสไลด์ควรให้ความสาคัญ กับขนาดตัวอักษร ดังนี้•
- หัวข้อใหญ่กาหนดขนาดตัวอักษรใหญ่กว่าหัวข้อย่อย• - เลือกใช้แบบอักษรที่เหมาะสม• - เปลี่ยนลักษณะของตัวอักษรนั้นใช้ตัวหนาในข้อความที่ต้องการเน้น•
- ใช้ช่องว่างในการจัดกลุ่มของเนื้อหา• - ข้อความที่ต้องการให้อ่านก่อนควรจัดไว้ที่ตาแหน่งมุมซ้ายบนของหน้า•
- พิมพ์ตัวอักษรลงกรอบที่วางแบบไว้แล้ว• - ขึ้นหัวข้อก่อนแล้วจึงอธิบายอย่างละเอียด• - ใช้สีที่แตกต่างกัน
หรือตัวอักษรสีสลับกัน
- 13. รูปแบบการนาเสนอข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์
ปัจจุบันที่นิยมใช้กันมี 2 รูปแบบ คือ (ต่อ)• 3)
สื่อนาเสนอต้องสะดุดตาและน่าสนใจ
สื่อนาเสนอที่ดีนั้นจะต้องมีจุดเด่นน่าสนใจ สามารถดึงดูดสายตาของผู้ดู
ผู้ฟังได้ซึ่งจุดเด่นนี้ได้มาจากขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่
หรือจากการใช้สีที่แตกต่างออกไป รวมถึง การเลือกใช้ภาพ การใช้สี และการใช้ Effect
ควบคุมการนาเสนอ ที่เหมาะสมประกอบ การนาเสนอ
- 14. เทคโนโลยีนาเสนองาน•
1.ฮาร์ดแวร์ (hardware) ได้แก่ เครื่องมือ
อุปกรณ์ในการนาเสนองาน ซึ่งทาหน้าที่เป็นสื่อสาหรับการแสดงผล
ผู้นาเสนอจะต้องเลือกใช้อุปกรณ์เหล่านี้ให้ตรงกับการใช้งาน
หรือออกแบบสื่อที่ต้องใช้ประกอบกับอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างลงตัว เช่น
โพรเจคเตอร์ วิชวลไลเซอร์ไมโครโฟน กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ จอรับภาพ•
2.ซอฟต์แวร์ (software) คือ
โปรแกรมหรือชุดคาสั่ง ที่จะสั่งและควบคุมให้ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ทางาน
เราไม่สามารถจับต้อง ซอฟต์แวร์ ได้โดยตรงเหมือนกับตัวฮาร์ดแวร์
เพราะซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมนี้จะถูกจัดเก็บอยู่ในสื่อ ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล
เช่น แผ่นดิสก์ซอฟต์แวร์ ที่มักติดตั้งไว้ในฮาร์ดดิสก์เพื่อทางานทันที่ที่เปิดเครื่องคือ
ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการสรุปแล้ว ซอฟต์แวร์ คือ
โปรแกรมชุดคาสั่งไว้ควบคมคอมฯให้ทางาน
- 15. อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนาเสนอผลงาน
(ฮาร์ดแวร์)• อุปกรณ์ดิจิทัลที่สามารถถ่ายทอดภาพและเสียงในงานนาเสนอเพื่อให้งานนาเสนอมีคุณภาพเข้าถึงผู้ชมและผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีดังนี้• 1. โพรเจกเตอร์ (Projector) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพที่ใช้ในการนาเสนอ
โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพจากคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวีซีดี เครื่องเล่นดีวีดี
และเครื่องกาเนิดภาพอื่น ๆ แล้วแสดงผล
ขยายขนาดบนจอรับภาพช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้น
เหมาะสาหรับการนาเสนอข้อมูลในห้องประชุม
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถมองเห็นภาพหรือข้อความได้อย่างชัดเจน
- 16. อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนาเสนอผลงาน
(ต่อ)• 2. วิชวลไลเซอร์ (Visualizer) เป็นอุปกรณ์ฉายภาพระบบดิจิทัลประเภทหนึ่ง
ซึ่งพัฒนามาจากโอเวอร์เฮดหรือเครื่องฉายข้ามศีรษะ
ใช้แสดงภาพวัตถุและเอกสารสู่จอรับภาพที่มีอยู่จริงได้เลย โดยไม่ต้องดัดแปลง
อุปกรณ์นี้เหมาะสาหรับใช้ในการนาเสนองานต่าง ๆ
โดยเฉพาะครู-อาจารย์ที่สอนหนังสือ และใช้ได้ดีในการนาเสนอภาพนิ่งมากกว่าภาพเคลื่อนไหว
แต่ภาพที่แสดงออกมานั้นก็ให้ความคมชัด มีสีสดใส
และมีโหมดของการแสดงภาพให้ปรับการทางานด้วย
การควบคุมการทางานสามารถทาได้โดยใช้รีโมต
- 17. อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนาเสนอผลงาน
(ต่อ)• 3. กล้องถ่ายรูปดิจิทัล (Digital Camera)
เป็นอุปกรณ์รับภาพที่เปลี่ยนจากฟิล์มมาเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งเมื่อถ่ายรูปที่ต้องการแล้ว รูปจะถูกเก็บลงในหน่วยความจา(memory) ที่อยู่ในกล้อง
เมื่อต้องการดูรูปทาได้โดยการถ่ายข้อมูลจากหน่วยความจาลงบนเครื่องพิมพ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์
ภาพที่ได้จะมีขนาดตามที่ต้องการ สามารถย่อหรือขยาย
ปรับแสงหรือเงาแล้วแต่ความพอใจหรือจะเพิ่มรูปแบบก็สามารถทาได้และเมื่อจะถ่ายใหม่
ก็สามารถใช้หน่วยความจาเดิมได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อฟิล์ม
- 18. อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนาเสนอผลงาน
(ต่อ)• 4. กล้องถ่ายวีดิทัศน์ดิจิทัล
เป็นอุปกรณ์รับภาพที่บันทึกข้อมูล ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
และเสียงเก็บไว้ในหน่วยความจาแบบแฟลชภายในกล้อง สามารถย่อหรือขยาย
ปรับแสงเงาของภาพได้และในปัจจุบันสามารถคัดลอกข้อมูลลงในแผ่นดีวีดีได้เลย
โดยไม่ต้องโอนลงในเครื่องคอมพิวเตอร์• 5. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์
ขนาดสมุดบันทึกหรือโน้ตบุ๊ก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้างงานนาเสนอ
เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โพรเจกเตอร์ เพื่อนาเสนองาน
และใช้นาเสนองานผ่านจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์
- 19. อุปกรณ์ดิจิทัลที่ช่วยในการนาเสนอผลงาน
(ต่อ)• 6. เครื่องเล่นเสียงหรือเครื่องเล่นเอ็มพีสาม (MP3)
เป็นอุปกรณ์ซึ่งบรรจุข้อมูลเสียงที่ใช้เล่นในคอมพิวเตอร์และสามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้โดยข้อมูลเสียงนั้นใช้เทคโนโลยีบีบอัดให้มีขนาดเล็กลงมากกว่าข้อมูลเสียงปกติถึง
12 เท่า
แม้ขนาดข้อมูลจะเล็กลงแต่คุณภาพเสียงไม่ได้เสียไปอย่างไรก็ตาม
หากเรานาข้อมูลเสียงจากเครื่องเล่น MP3 ไปเล่นในเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า
จะได้เสียงในลักษณะกระตุกหรือใช้การไม่ได้เลย• 7. โทรศัพท์เคลื่อนที่บางรุ่น
เป็นอุปกรณ์ตัวกลางที่ผู้ใช้สามารถนาเสนองานที่สร้างด้วยซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ผ่านเครื่องโพรเจกเตอร์ได้สะดวก
ง่ายต่อการติดตั้ง
เพียงเชื่อมต่อโพรเจกเตอร์เข้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสายเคเบิลแล้วเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยบลูทูธ
- 20. เทคโนโลยีนาเสนอ
(ซอฟต์แวร์)• PowerPoint 2010 คือโปรแกรมประยุกต์แบบภาพและกราฟิก
ที่มีจุดประสงค์หลักในการใช้เพื่อสร้างงานนาเสนอ PowerPoint ทาให้คุณสามารถสร้าง ดู และแสดงการนาเสนอภาพนิ่งที่รวมข้อความ
รูปร่าง รูปภาพ กราฟ ภาพเคลื่อนไหว แผนภูมิ วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย•
โปรแกรม Flip Album 6 Pro เป็นโปรแกรมลักษณะของโปรแกรมสาเร็จรูป
โดยโปรแกรมชุด FilpAlbumเป็นโปรแกรมที่นิยมใช้สร้าง e-Book
ซึ่ง อีบุ๊ค” (eBook,EBook, e-Book) เป็นคาภาษาต่างประเทศ
ย่อมาจากคาว่าelectronic book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจัดทาขึ้นด้วย
ระบบคอมพิวเตอร์ หรือ
หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
และ
สามารถอ่านได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์เหมือนเปิดอ่านจากหนังสือโดยตรงที่เป็นกระดาษ
แต่ไม่มีการเข้าเล่ม
- 21. เทคโนโลยีนาเสนอ
(ซอฟต์แวร์) (ต่อ)• โปรแกรม Proshow Gold คือ
โปรแกรมสาหรับเรียงลาดับภาพเพื่อนาเสนอแบบมัลติมีเดียที่มีความสามารถสร้างผลงานได้ในระดับมืออาชีพ
ด้วยเทคนิคพิเศษมากมาย ใช้งานง่ายเหมาะสมต่อการนาเสนอสื่อ การเรียนการสอน
การแนะนาอัตชีวประวัติ
สามารถเขียนชิ้นงานออกมาในรูปแบบของวีซีดีได้อย่างรวดเร็ว
เป็นโปรแกรมที่ช่วยสร้างแผ่นวีซีดีจากรูปภาพต่าง ๆที่ทางานได้รวดเร็ว
โดยสามารถทาการใส่เสียงเพลงประกอบได้ด้วย และสามารถแปลงไฟล์เป็นไฟล์ต่าง ๆ
ได้เช่น VCD ,DVD หรือ EXE ฯลฯ
ภาพที่ได้จัดอยู่ในคุณภาพดี ซึ่งโปรแกรมอื่นจะใช้เวลาในการทางานนานพอสมควร•
โปรแกรม Adobe Captivate เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการสร้าง
Movie ในรูปแบบสื่อเรียนการเรียนรู้
หรือสื่อการนาเสนอแบบมัลติมีเดีย เช่น การนาเสนอผลงาน
การจับหน้าจอภาพเพื่อนาไปสร้างสื่อการเรียนรู้ การสร้างแบบทดสอบ
รวมไปถึงการตัดต่อวิดีโอ เพื่อใช้สาหรับงานนาเสนอหรือผลิตสื่อการเรียนรู้
โดยโปรแกรม AdobeCaptivate เป็นโปรแกรมที่ใช้สร้างชิ้นงานได้ง่ายและเร็ว
- http://www.slideshare.net/sofuwan/ss-23349780
บทที่ 8
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น